Skip to content Skip to footer

ลับมีดกรีดยางให้คมกริบ เงาวับ เพียง 2 ขั้นตอนง่ายๆ ประหยัดงบสุดๆ

มีดกรีดยางเป็นอุปกรณ์สำคัญของชาวสวนยางพารา แต่เมื่อใช้งานไปนานๆ ความคมของมีดจะลดลง ส่งผลให้กรีดยางได้ไม่ดี อาจทำให้หน้ายางเสีย หรือยางไหลน้อยลง และหากปล่อยให้มีดทื่อมากๆ อาจต้องออกแรงกดมากขึ้น ซึ่งเสี่ยงต่อการทำให้ต้นยางเกิดแผลลึกจนติดเชื้อหรือเกิดโรคตามมาได้

             ในบทความนี้ เราจะแนะนำวิธีลับมีดกรีดยางให้คมกริบ เงาวับเหมือนได้มีดใหม่ พร้อมเคล็ดลับช่วยรักษาหน้ายางให้ดีขึ้น ทั้งหมดนี้ทำได้ง่ายๆ เพียง 2 ขั้นตอน และใช้อุปกรณ์ไม่กี่ชิ้น ที่สำคัญคือประหยัดงบสุดๆ เหมาะสำหรับชาวสวนยางที่ต้องการดูแลมีดของตนเองให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ลับมีดกรีดยางให้คมกริบ เงาวับ ด้วยไขปลาวาฬ

อุปกรณ์ที่ต้องใช้

  1. ไขปลาวาฬสีฟ้า หรือ ก้อนขัดเงา – ช่วยเพิ่มความคมและเงางามให้มีด
  2. ล้อผ้าขัดเงาผ้ายีนส์ 6 นิ้ว หนา 10 มม. ตอกหนัง – ควรเลือกผ้ายีนส์แทนผ้าหนัง เพราะความร้อนจากการขัดอาจทำให้มีดอ่อนตัวและเสียรูปทรง
  3. มอเตอร์หินไฟ หรือเครื่องมอเตอร์หินเจียร – ใช้เป็นเครื่องมือหมุนล้อขัดเงา เพื่อช่วยในการลับมีดให้ได้ผลดีที่สุด

วิธีลับมีดกรีดยางให้คมกริบและเงางาม

ขั้นตอนที่ 1: เตรียมเครื่องขัดเงา

ขั้นตอนที่ 2: ลับมีดให้คมและเงา

  • นำ ใบมีดกรีดยาง ไปจี้กับ ล้อผ้ายีนส์ โดยให้ขอบคมมีดสัมผัสกับล้อที่เคลือบไขปลาวาฬ
  • ค่อยๆ ขัดใบมีดไปมาโดยไม่ต้องออกแรงกดมาก ให้ล้อทำงานไปตามธรรมชาติ
  • ทำซ้ำจนกว่าขอบมีดจะคมและเงางามตามต้องการ
ลับมีดกรีดยางให้คมกริบ เงาวับ ด้วยไขปลาวาฬ

เคล็ดลับเพิ่มเติม

 หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าหนัง – เพราะความร้อนที่เกิดจากการขัดอาจทำให้มีดยางเสียรูปได้

สรุป

             เพียงแค่ 2 ขั้นตอนง่ายๆ ก็สามารถลับมีดกรีดยางให้คมกริบ เงาวับเหมือนได้มีดใหม่ อีกทั้งยังช่วยให้การกรีดยางทำได้ง่ายขึ้น ลดแรงกด ลดการทำลายหน้ายาง และช่วยให้ต้นยางไม่ติดโรค ที่สำคัญยังเป็นวิธีที่ประหยัดงบมากๆ เหมาะสำหรับชาวสวนที่ต้องการดูแลมีดกรีดยางด้วยตัวเอง

             ลองนำวิธีนี้ไปใช้ แล้วคุณจะเห็นความแตกต่างของมีดกรีดยางที่คมขึ้น เงางามขึ้น และทำงานได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน!

มีดกรีดยางมีกี่แบบ?

             การเลือกมีดกรีดยางนั้นสำคัญมาก เพราะถ้าเลือกมีดที่ไม่คมและรูปทรงไม่เหมาะสม จะทำให้น้ำยางไหลไม่เยอะเท่าที่ควร ส่งผลให้ผลผลิตน้อยลงไปด้วย นอกจากนี้ยังอาจส่งผลเสียในระยะยาวต่อต้นยาง โดยอาจทำให้ต้นยางเป็นโรคง่าย เปลือกแข็งกว่าปกติ

             มีดกรีดยางนั้นแบ่งได้หลายประเภท ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีการใช้งานที่ต่างกันออกไป ถ้าแบ่งกันตามลักษณะการกรีดยางแล้ว ก็จะแบ่งได้ 2 แบบ คือ มีดกรีดยางแบบหน้าปกติ และ มีดกรีดยางแบบหน้าต่ำ

  • มีดกรีดยางแบบหน้าปกติ ใช้กรีดหน้ายางระดับความสูงประมาณ 150 เซนติเมตร และเปลี่ยนหน้ากรีดลงมาเรื่อยๆ เมื่อจนถึงโคนต้นห่างจากพื้นดินประมาณ 30 เซนติเมตร
ลับมีดกรีดยางให้คมกริบ เงาวับ ด้วยไขปลาวาฬ
  • มีดกรีดยางแบบหน้าต่ำ นิยมนำมาใช้ในการกรีดหน้ายางใกล้โคนต้น เพราะมีดประเภทนี้สามารถกรีดได้สะดวกกว่า ไม่ต้องคอยย่อตัวลงมากนัก ลดผลกระทบต่อสรีระร่างกายของคนกรีดยาง

วิธีการเลือกมีดกรีดยาง

             ก่อนที่จะเลือกซื้อมีดกรีดยาง เราต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นขนาดของต้นยาง ความถนัดและความชำนาญในการใช้งานมีด ซึ่งการเลือกมีดที่เหมาะสมนั้นช่วยเพิ่มความปลอดภัยและเพิ่มผลผลิตให้คุณได้มากกว่าที่คิด

1. เลือกมีดกรีดยางให้เหมาะสมกับอายุและเปลือกของต้นยาง

             การเลือกขนาดของมีดกรีดยางให้เหมาะสมกับเปลือกและอายุของต้นยางนั้นช่วยถนอมต้นยางให้อยู่กับสวนของเราได้ยาวนานขึ้น และยังช่วยให้เรามีผลผลิตที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งในบทความนี้จะมาแนะนำการเลือกจากขนาดของมีด และการเลือกตามองศาของร่องมีด

1.1 เลือกตามขนาดของมีด

             โดยหลัก ๆ แล้วเราสามารถแบ่งขนาดของมีดได้ออกเป็น 4 ขนาด ได้แก่:

  • เบอร์ 1: น้ำหนักตัวมีดหนักสุด เหมาะกับเปลือกต้นยางที่หนาและแข็ง
  • เบอร์ 2: ใช้สำหรับกรีดเปลือกยางหน้าสองหรือเปลือกที่งอกขึ้นใหม่หลังจากกรีดครั้งแรก
  • เบอร์ และ 4: ใบมีดบางสุด เหมาะกับต้นยางอายุน้อย เปลือกยังไม่หนา

1.2 เลือกตามองศาของร่องมีด

             มีดกรีดยางสามารถแบ่งตามองศาของร่องมีดออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่:

  • มีดร่อง 65: เหมาะกับต้นยางที่ยังไม่โต เปลือกบางและเข้าถึงท่อน้ำยางได้ง่าย
  • มีดร่อง 75: ใช้กรีดต้นยางที่เปลือกหนาขนาดกลาง ใบมีดแนบกับเปลือกมากขึ้น
  • มีดร่อง 85: มีส่วนโค้งคล้ายตัว U ใช้กรีดต้นยางที่เปลือกหนาได้ดีเยี่ยม

2. เลือกมีดกรีดยางไฟฟ้า ใช้งานง่าย

             มีดกรีดยางไฟฟ้าเป็นนวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกรีดยาง เหมาะกับเกษตรกรรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวกในการทำงาน แม้ไม่มีความชำนาญในการกรีดก็สามารถใช้งานได้ เพราะตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา กรีดหน้ายางเรียบ ทำงานได้ไวและมีมาตรฐาน ยิ่งถ้าผู้ใช้งานมีความชำนาญอยู่แล้ว ก็สามารถเพิ่มผลผลิตได้มากกว่าปกติหลายเท่า ถือเป็นตัวช่วยสำคัญที่อาจทำให้อุตสาหกรรมการผลิตยางพาราในไทยเติบโตยิ่งขึ้น

3. ตรวจสอบน้ำหนักและด้ามจับของมีดกรีดยาง

             ก่อนจะตัดสินใจซื้อมีดกรีดยางทุกครั้ง ควรตรวจสอบน้ำหนักและด้ามจับให้ดี เพราะน้ำหนักของมีดจะแตกต่างกันไปตามแต่ละยี่ห้อและประเภทของมีด ควรเลือกมีดที่จับถนัดมือและมีน้ำหนักเหมาะสมเพื่อช่วยทุ่นแรงในการกรีดยางให้ดีขึ้น หากเลือกมีดที่หนักเกินไป อาจส่งผลให้เมื่อยล้าหรือใช้งานได้ไม่นาน

  • ด้ามจับเหล็ก: คงทน ไม่ต้องกังวลเรื่องแตกหัก
  • ด้ามจับไม้: น้ำหนักเบา จับง่าย เหมาะกับการใช้งานระยะยาว

สรุป

             การเลือกมีดกรีดยางที่เหมาะสม ไม่ใช่แค่ช่วยให้กรีดยางได้ง่ายขึ้น แต่ยังช่วยเพิ่มผลผลิตและลดผลกระทบต่อสุขภาพของผู้กรีด หากเลือกมีดที่เหมาะสมกับลักษณะของต้นยาง และให้ความสำคัญกับน้ำหนักและด้ามจับ ก็จะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งการเลือกใช้มีดกรีดยางไฟฟ้า ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเกษตรกรยุคใหม่ที่ต้องการเพิ่มผลผลิตและลดความเหนื่อยล้าในการทำงานอีกด้วย