มีดกรีดยางเป็นอุปกรณ์สำคัญของชาวสวนยางพารา แต่เมื่อใช้งานไปนานๆ ความคมของมีดจะลดลง ส่งผลให้กรีดยางได้ไม่ดี อาจทำให้หน้ายางเสีย หรือยางไหลน้อยลง และหากปล่อยให้มีดทื่อมากๆ อาจต้องออกแรงกดมากขึ้น ซึ่งเสี่ยงต่อการทำให้ต้นยางเกิดแผลลึกจนติดเชื้อหรือเกิดโรคตามมาได้
ในบทความนี้ เราจะแนะนำวิธีลับมีดกรีดยางให้คมกริบ เงาวับเหมือนได้มีดใหม่ พร้อมเคล็ดลับช่วยรักษาหน้ายางให้ดีขึ้น ทั้งหมดนี้ทำได้ง่ายๆ เพียง 2 ขั้นตอน และใช้อุปกรณ์ไม่กี่ชิ้น ที่สำคัญคือประหยัดงบสุดๆ เหมาะสำหรับชาวสวนยางที่ต้องการดูแลมีดของตนเองให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

อุปกรณ์ที่ต้องใช้
- ไขปลาวาฬสีฟ้า หรือ ก้อนขัดเงา – ช่วยเพิ่มความคมและเงางามให้มีด
- ล้อผ้าขัดเงาผ้ายีนส์ 6 นิ้ว หนา 10 มม. ตอกหนัง – ควรเลือกผ้ายีนส์แทนผ้าหนัง เพราะความร้อนจากการขัดอาจทำให้มีดอ่อนตัวและเสียรูปทรง
- มอเตอร์หินไฟ หรือเครื่องมอเตอร์หินเจียร – ใช้เป็นเครื่องมือหมุนล้อขัดเงา เพื่อช่วยในการลับมีดให้ได้ผลดีที่สุด
วิธีลับมีดกรีดยางให้คมกริบและเงางาม
ขั้นตอนที่ 1: เตรียมเครื่องขัดเงา
- ติดตั้ง ล้อผ้าขัดเงาผ้ายีนส์ 6 นิ้ว เข้ากับ เครื่องมอเตอร์หินไฟ หรือ มอเตอร์หินเจียร ให้แน่นหนา
- เปิดเครื่องให้ล้อหมุน จากนั้นนำ ไขปลาวาฬสีฟ้า หรือ ก้อนขัดเงา ไปจี้กับล้อผ้า ปล่อยให้ไขปลาวาฬละลายติดกับล้อเพื่อใช้เป็นสารช่วยขัดเงาและลับคม
ขั้นตอนที่ 2: ลับมีดให้คมและเงา
- นำ ใบมีดกรีดยาง ไปจี้กับ ล้อผ้ายีนส์ โดยให้ขอบคมมีดสัมผัสกับล้อที่เคลือบไขปลาวาฬ
- ค่อยๆ ขัดใบมีดไปมาโดยไม่ต้องออกแรงกดมาก ให้ล้อทำงานไปตามธรรมชาติ
- ทำซ้ำจนกว่าขอบมีดจะคมและเงางามตามต้องการ

เคล็ดลับเพิ่มเติม
หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าหนัง – เพราะความร้อนที่เกิดจากการขัดอาจทำให้มีดยางเสียรูปได้
สรุป
เพียงแค่ 2 ขั้นตอนง่ายๆ ก็สามารถลับมีดกรีดยางให้คมกริบ เงาวับเหมือนได้มีดใหม่ อีกทั้งยังช่วยให้การกรีดยางทำได้ง่ายขึ้น ลดแรงกด ลดการทำลายหน้ายาง และช่วยให้ต้นยางไม่ติดโรค ที่สำคัญยังเป็นวิธีที่ประหยัดงบมากๆ เหมาะสำหรับชาวสวนที่ต้องการดูแลมีดกรีดยางด้วยตัวเอง
ลองนำวิธีนี้ไปใช้ แล้วคุณจะเห็นความแตกต่างของมีดกรีดยางที่คมขึ้น เงางามขึ้น และทำงานได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน!
มีดกรีดยางมีกี่แบบ?
การเลือกมีดกรีดยางนั้นสำคัญมาก เพราะถ้าเลือกมีดที่ไม่คมและรูปทรงไม่เหมาะสม จะทำให้น้ำยางไหลไม่เยอะเท่าที่ควร ส่งผลให้ผลผลิตน้อยลงไปด้วย นอกจากนี้ยังอาจส่งผลเสียในระยะยาวต่อต้นยาง โดยอาจทำให้ต้นยางเป็นโรคง่าย เปลือกแข็งกว่าปกติ
มีดกรีดยางนั้นแบ่งได้หลายประเภท ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีการใช้งานที่ต่างกันออกไป ถ้าแบ่งกันตามลักษณะการกรีดยางแล้ว ก็จะแบ่งได้ 2 แบบ คือ มีดกรีดยางแบบหน้าปกติ และ มีดกรีดยางแบบหน้าต่ำ
- มีดกรีดยางแบบหน้าปกติ ใช้กรีดหน้ายางระดับความสูงประมาณ 150 เซนติเมตร และเปลี่ยนหน้ากรีดลงมาเรื่อยๆ เมื่อจนถึงโคนต้นห่างจากพื้นดินประมาณ 30 เซนติเมตร

- มีดกรีดยางแบบหน้าต่ำ นิยมนำมาใช้ในการกรีดหน้ายางใกล้โคนต้น เพราะมีดประเภทนี้สามารถกรีดได้สะดวกกว่า ไม่ต้องคอยย่อตัวลงมากนัก ลดผลกระทบต่อสรีระร่างกายของคนกรีดยาง
วิธีการเลือกมีดกรีดยาง
ก่อนที่จะเลือกซื้อมีดกรีดยาง เราต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นขนาดของต้นยาง ความถนัดและความชำนาญในการใช้งานมีด ซึ่งการเลือกมีดที่เหมาะสมนั้นช่วยเพิ่มความปลอดภัยและเพิ่มผลผลิตให้คุณได้มากกว่าที่คิด
1. เลือกมีดกรีดยางให้เหมาะสมกับอายุและเปลือกของต้นยาง
การเลือกขนาดของมีดกรีดยางให้เหมาะสมกับเปลือกและอายุของต้นยางนั้นช่วยถนอมต้นยางให้อยู่กับสวนของเราได้ยาวนานขึ้น และยังช่วยให้เรามีผลผลิตที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งในบทความนี้จะมาแนะนำการเลือกจากขนาดของมีด และการเลือกตามองศาของร่องมีด
1.1 เลือกตามขนาดของมีด
โดยหลัก ๆ แล้วเราสามารถแบ่งขนาดของมีดได้ออกเป็น 4 ขนาด ได้แก่:
- เบอร์ 1: น้ำหนักตัวมีดหนักสุด เหมาะกับเปลือกต้นยางที่หนาและแข็ง
- เบอร์ 2: ใช้สำหรับกรีดเปลือกยางหน้าสองหรือเปลือกที่งอกขึ้นใหม่หลังจากกรีดครั้งแรก
- เบอร์ 3 และ 4: ใบมีดบางสุด เหมาะกับต้นยางอายุน้อย เปลือกยังไม่หนา
1.2 เลือกตามองศาของร่องมีด
มีดกรีดยางสามารถแบ่งตามองศาของร่องมีดออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่:
- มีดร่อง 65: เหมาะกับต้นยางที่ยังไม่โต เปลือกบางและเข้าถึงท่อน้ำยางได้ง่าย
- มีดร่อง 75: ใช้กรีดต้นยางที่เปลือกหนาขนาดกลาง ใบมีดแนบกับเปลือกมากขึ้น
- มีดร่อง 85: มีส่วนโค้งคล้ายตัว U ใช้กรีดต้นยางที่เปลือกหนาได้ดีเยี่ยม
2. เลือกมีดกรีดยางไฟฟ้า ใช้งานง่าย
มีดกรีดยางไฟฟ้าเป็นนวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกรีดยาง เหมาะกับเกษตรกรรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวกในการทำงาน แม้ไม่มีความชำนาญในการกรีดก็สามารถใช้งานได้ เพราะตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา กรีดหน้ายางเรียบ ทำงานได้ไวและมีมาตรฐาน ยิ่งถ้าผู้ใช้งานมีความชำนาญอยู่แล้ว ก็สามารถเพิ่มผลผลิตได้มากกว่าปกติหลายเท่า ถือเป็นตัวช่วยสำคัญที่อาจทำให้อุตสาหกรรมการผลิตยางพาราในไทยเติบโตยิ่งขึ้น
3. ตรวจสอบน้ำหนักและด้ามจับของมีดกรีดยาง
ก่อนจะตัดสินใจซื้อมีดกรีดยางทุกครั้ง ควรตรวจสอบน้ำหนักและด้ามจับให้ดี เพราะน้ำหนักของมีดจะแตกต่างกันไปตามแต่ละยี่ห้อและประเภทของมีด ควรเลือกมีดที่จับถนัดมือและมีน้ำหนักเหมาะสมเพื่อช่วยทุ่นแรงในการกรีดยางให้ดีขึ้น หากเลือกมีดที่หนักเกินไป อาจส่งผลให้เมื่อยล้าหรือใช้งานได้ไม่นาน
- ด้ามจับเหล็ก: คงทน ไม่ต้องกังวลเรื่องแตกหัก
- ด้ามจับไม้: น้ำหนักเบา จับง่าย เหมาะกับการใช้งานระยะยาว